ข้อดีของวอลเปเปอร์ติดผนังแต่ละชนิด

ข้อดีของวอลเปเปอร์ติดผนังแต่ละชนิด

ปัจจุจุบัน เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการผลิตวอลเปเปอร์ติดผนัง มีความทันสมัยมาก สามารถออกแบบและผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ไม่น้อยกว่าวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านแบบอื่น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือก รวมทั้งลดข้อจำกัดในตกแต่งบ้านได้อย่างมาก

วัสดุที่นิยมใช้ผลิตวอลเปเปอร์ติดผนังในปัจจุบัน มีอยู่ 9 ประเภท ได้แก่

1.ไวนิล (VINYL ) เป็นวัสดุบุผนังที่ผลิตจากกระดาษเคลือบผิวหน้า (Surface) ด้วยสารประเภทไวนิลพิมพ์สีและใช้การกดลาย (Emboss) เพื่อให้เกิดลวดลาย ในบางชนิดมีการทำรีจีสเตอร์ (Register) เพื่อเพิ่มเส้นของลวดลายต่างๆ มีลักษณะผิวหน้ามันและด้าน เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำได้ ดูแลรักษาง่าย ไม่เป็นที่เกาะของฝุ่นละออง เหมาะกับการติดตั้งผนังทั่วไป

wallpaper-3

 

2.นอน-วูเว่น ( NON-WOVEN ) คือ นวัตกรรมใหม่ที่ผลิตจากเส้นใยสิ่งทอผสมกับเส้นใยเซลลูโลส กระดาษที่ผลิตจากเยื่อไม้ธรรมชาติ มีน้ำหนักเบาติดตั้งง่ายกว่ากระดาษ ทนทานมากกว่าในด้านความเหนียว ฉีกขาดยาก สามารถระบายความชื้นได้ดีกว่ากระดาษ มีคุณสมบัติลอกออกง่ายสำหรับการติดตั้งใหม่ หรือ ต้องการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ ลดปริมาณการทำลายสิ่งแวดล้อม

3.โฟม (FOAM) เป็นวัสดุชนิดหลังกระดาษ (Paper Back) เคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี (PVC) หรือโฟมพิมพ์สีแล้วทำการกดนูน เพื่อให้ได้ลวดลายลักษณะเด่น คือ จะมีลวดลายที่ลึกเด่นชัด มีความหนานุ่ม และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายพอสมควร เหมาะสำหรับการติดตั้งในที่ที่ไม่มีฝุ่นมาก นอกจากนี้วอลเปเปอร์โฟม ยังสามารถพัฒนารูปแบบ ให้สามารถทาสีตกแต่งผนังทับลงไปได้อีก เพื่อให้ได้อารมณ์ของการตกแต่งที่แตกต่างไปอีกแบบ

4.ดูเพล็กซ์ (DUPLEX) เป็นวอลเปเปอร์ชนิดกระดาษ เป็นวัสดุผนังที่ผลิตจากการดาษพิมพ์ลายอย่างเดียว ไม่มีการกดลาย (Emboss) บนผิวหน้า ไม่ได้เคลือบหน้าด้วยอะไรทั้งสิ้น แต่อาจมีการเคลือบมันบ้างที่ผิวหน้าเพื่อเพิ่มความสวยงาม และสื่ออารมณ์ของภาพให้โดดเด่น

 

5.เท็กซ์ไทล์ (TEXTILE) เป็นวัสดุผนังชนิดหลังกระดาษ(Paper back) แล้วใช้เส้นใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะห์ เช่น ฝ้าย ไหม โพลีเอสเตอร์ มาถักทอเป็นลวดลายบนกระดาษ ลักษณะเด่นคือ จะมีเส้นสายของลายที่ชัดเจน โดดเด่น สร้างความหรูหราให้กับผนังเป็นอย่างดี ส่วนมากวอลเปเปอร์ประเภทนี้จะเป็นแบบหน้ากว้าง

 

6.ภาพวิว (PHOTO WALL) คือ กระดาษติดฝาผนังที่พิมพ์เอาลวดลายหรือรูปภาพที่ถ่ายจากธรรมชาติหรือภาพเขียน ภาพถ่าย มีลักษณะเป็นภาพภาพเดียวกันทั้งผนัง เช่น ภาพบรรยากาศเมือง ภาพภูเขา ทะเล น้ำตก ฯลฯ  ภาพและสี คมชัดให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ

ภาพวิว ติดผนัง

ภาพวิว ติดผนัง

7.ผิวหน้าเป็นไม้จริง (WOOD BACKING PAPER) การใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น ไม้คอร์ก ไม้ไผ่ เป็นต้น ลามิเนตกับกระดาษ(โดยเรียกกระดาษหนังไก่) มีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งพื้นที่ๆ ต้องการความสวยงามและดึงดูดเป็นพิเศษ เช่น พื้นที่จัดโชว์สินค้า ของสะสม เป็นต้น

 

  8.ไฟเบอร์(FIBER WALL) เป็นวัสดุบุผนังที่แตกต่างจากวอลล์เปเปอร์ทั่วไปคือผลิตจากวัสดุแผ่นหลัง ที่เป็นแผ่นยิปซั่มรีดบางแล้วเคลือบผิวหน้าด้วยการใช้เส้นใยไฟเบอร์มาถักเป็นโครงสร้างเส้นใย (NET) แล้วทำการพิมพ์สีลวดลายให้สวยงามลักษณะเด่นคือ BACKING ที่เป็นยิปซั่มสามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้ดี อีกทั้งโครงข่าย (NET) ของไฟเบอร์ที่มีความเหนียวที่จะยึดผนังไว้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผนังไม่เกิดรอยร้าว และรอยแยกได้ในระดับหนึ่ง

 

9.วอลหลังผ้า (FABRIC BACKING) ใช้วัสดุสิ่งทอเป็นด้านหลัง และเคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ทนทาน ป้องกันการกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานมาก เช่น โรงแรม โถงทางเดิน

 นอกจากนี้ ขนาดของวอลเปเปอร์ติดผนังที่ผลิตเป็นมาตรฐานสากล จะมีหลายขนาดดังนี้

1.ขนาดของวอลเปเปอร์ กว้าง 53 เซนติเมตร x ยาว 10 เมตร (เป็นขนาดมาตรฐานนิยมใช้มากที่สุด หรือที่เรียกว่า วอลหน้าแคบ)

ติดตั้งจริงได้ประมาณ 4 – 4.5 ตรม. ขึ้นอยู่กับขนาดความสูงของฝาผนัง

2.ขนาดของวอลเปเปอร์ กว้าง 70 เซนติเมตร x ยาว 10 เมตร ติดตั้งจริงได้ประมาณ 6 – 6.5 ตรม. ขึ้นอยู่กับขนาดความสูงของฝาผนัง

3.ขนาดของวอลเปเปอร์ กว้าง 1.06 เซนติเมตร x ยาว 10 เมตร ติดตั้งจริงได้ประมาณ 9 – 9.5 ตรม. ขึ้นอยู่กับขนาดความสูงของฝาผนัง

ฉะนั้น ก่อนการเลือกซื้อวอลเปเปอร์ ควรให้ความสำคัญในการพิจารณาและศึกษาข้อมูลดังกล่าว ก่อนเลือกซื้อวอลเปเปอร์ เพื่อให้ได้วอลเปเปอร์ติดผนังที่เหมาะสมกับความต้องการ และการใช้งานของคุณ

credit : mdwallpaper

ข้อดีของวอลเปเปอร์ติดผนังแต่ละชนิด